• Welcome to ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี.
 
kamagra

เงินบาททรงตัวในกรอบแคบ หลังยอดค้าปลีกสหรัฐฯ แกร่ง

Started by Cindy700, Today at 11:48 AM

Previous topic - Next topic

Cindy700

ปัจจัยหนุนดอลลาร์: ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ พุ่งเกินคาด

ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจาก ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นถึง 6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เพียง 0.1% อย่างมาก ตัวเลขนี้ทำให้ตลาดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต้องพิจารณานโยบายการเงินอย่างระมัดระวังต่อไป อย่างไรก็ตาม เงินบาทไม่ได้อ่อนค่ามากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงมองเห็นปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยวและบริการของไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

ทรัมป์ประกาศแผนภาษีนำเข้าใหม่: ส่งจดหมายแจ้ง 150 ประเทศ

อีกประเด็นสำคัญที่นักลงทุนจับตาคือท่าทีของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เตรียมใช้นโยบายกีดกันทางการค้ารูปแบบใหม่ โดยมีแผนจะ ส่งจดหมายแจ้ง 150 ประเทศทั่วโลก เพื่อปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเป็น 10-15% ตามประเภทสินค้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศในระยะข้างหน้า
น่าสนใจว่าทรัมป์มีท่าที "อ่อนลงต่อจีน" เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ โดยยังไม่มีการแสดงท่าทีขึ้นภาษีสินค้าจีนอย่างรุนแรงเช่นในอดีต ซึ่งอาจสะท้อนถึงกลยุทธ์ใหม่ที่พยายามสร้างสมดุลระหว่างนโยบายเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อรักษาฐานเสียงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า หากทรัมป์ชนะเลือกตั้งและเดินหน้าแผนนี้จริง อาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น ตลาดยังไม่ตอบสนองเชิงลบมากนัก เนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดสินค้าหรือกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน

ไทยเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ: ย้ำจุดยืน "ไม่เปิดตลาดทั้งหมด"

ในส่วนของประเทศไทย ค่าเงินบาท มีความเคลื่อนไหวสำคัญจากการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา โดย ฝ่ายไทยได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะ "ไม่เปิดตลาดสินค้าให้สหรัฐฯ ทั้งหมด" แต่จะพิจารณาเปิดเฉพาะบางกลุ่มที่ไม่กระทบอุตสาหกรรมภายในประเทศ สะท้อนถึงความระมัดระวังและการคำนึงถึงความยั่งยืนของเศรษฐกิจระยะยาว

การเจรจาครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ไทยเปิดตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและบริการ แต่รัฐบาลไทยชี้แจงว่าต้องพิจารณาเป็นรายภาคส่วน และให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้ประกอบการในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม SME และเกษตรกร การเจรจาจะดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 และอาจมีการปรับรายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับทิศทางนโยบายการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งในปี 2569